อัปเดต ชวนคุยเรื่องสถาปัตยกรรม วิเคราะห์ย่าน ในสิงคโปร์ ยังสวยอยู่ไหม โซนไหนน่าไปบ้างในปี 2022

เริ่มต้นจากย่านที่เราชอบมาก และถือเป็นสีสันใหม่ที่ต้องไป สำหรับทริปสิงคโปร์ 2565 กับ จูเชียต เพราะนอกจากอาคารแบบเปอรานากันแล้ว ภายใต้ตึกที่เรียงราย ยังอัดแน่นด้วยคาเฟ่ ร้านอาหาร และร้านขายของแต่งบ้านเรียงเต็มไปหมด บอกเลยว่าเดินเพลินมากๆ

ย่านกาตงและจูเชียต (Katong – Joo Chiat Walking Route)

สถาปัตยกรรมย่านจูเชียต Joo Chiat Architecture : Peranakan

สำหรับที่มาของย่านนี้ก็มาจากย่านที่อยู่ของชาวเปอรานากัน (Peranakan)
ซึ่งเป็นเชื้อชาติของลูกหลานชายชาวจีนโพ้นทะเล กับ หญิงชาวมลายูท้องถิ่น “เปอรานากัน” นั้นมีความหมายว่า “เกิดที่นี่” นั่นเอง ทำให้อาคารด้านนอกเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจจากการผสมผสานวัฒนธรรมแบบใหม่ อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

สถาปัตยกรรมภายใน ย่านจูเชียต Joo Chiat Interior Architecture

ถ้าคุณคาดหวังว่าสถาปัตยกรรมภายนอกอาคาร และภายในจะล้อกันไปตลอดทั้งช่วงตึก คุณคิดผิดจูเชียตเป็นสิ่งแปลกใหม่ เพราะด้านในอาคารมีทั้งคาเฟ่สไตล์ลอฟท์ ร้านของตกแต่งบ้านที่มินิมอลสุดๆ โรงเรียนแมวที่โมเดิร์นมากๆ ทำให้การเดินตลอดเส้นทางนี้ไม่น่าเบื่อเลย สำหรับใครที่มองหาของฝากจาก สิงคโปร์ ที่ไม่เหมือนใคร แถมเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ เราอยากแนะนำให้มาลองเดินเล่นที่ย่านนี้มากกกก

วิธีเดินทาง

ย่านมารินาเบย์ แซน ( Marina Bay Sand )

Gardens By the bay

เริ่มจากการดูฟังก์ชั่นโดยรวมของ Gardens by the Bay เพราะเป็นระบบหมุนเวียนที่ช่วยให้ Flower Dome ยังคงความเย็น โดยการมีท่อน้ำลำเลียงความเย็นอยู่ด้านล่าง และ ใช้พลังงานอย่างยั่งยืนในพื้นที่ทั้งหมด รวมถึงการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ผ่าน Supertree

Supertree Grove

ตื่นตากับย่านที่ทุกคนปักหมุด โดดเด่นในฟังก์ชั่นเรื่องความยั่งยืน Supertree Grove สร้างขึ้นเมื่อปี 2011 รวมทั้งโครงสร้างด้านบนที่รับน้ำฝน และ ทำหน้าที่เก็บกักน้ำได้ในตัวก็เหมือนเซลล์ของต้นไม้ที่เต็มไปด้วยน้ำ และทำการสังเคราะห์แสงเองได้อีกด้วย

เนื่องจากมีการเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ในตัวเอง แถมยังงดงามจากการจัดสวนแนวตั้งที่รวมพืชไว้กว่า 200 สปีชีส์ และ 162,900 ต้น เลยทีเดียว ต้นที่สูงที่สุดคือเท่ากับตึก 16 ชั้นอีกด้วย ถ้าใครไปช่วงกลางคืนอย่าลืมรอดูโชว์ Garden Rhapsody คืนละ 2 รอบ ได้แก่ 19:45 น. กับ 20:45 น. เราว่าไปทั้งทีควรไปดูมากๆ เพราะบรรยากาศดีตอนกลางคืน พร้อมเสียงเพลง และแสงไฟ เคล้ากันไปได้อย่างลงตัว

Flower Dome

อากาศใน Flowe Dome มีอุณหภูมิระหว่าง 23-25 องศา ใครจะไปก็อย่าลืมเรื่องนี้ด้วย เพราะการคงอุณภูมิจะช่วยให้ต้นไม้ที่มาจากหลายหลายที่ เติบโตได้อย่างดีที่สุด มีการแบ่งโซนพืชพรรณไว้ได้อย่างหลากหลาย และมีสีสัน โซนที่เราชอบที่สุดคือโซนกระบองเพชร และแคตตัส เพราะมีเสน่ห์มากๆ สำหรับใครที่สงสัยว่าสิงคโปร์เป็นเมืองร้อนชื้นไม่ใช่หรอ แต่ใน Flower Dome ขนาดใหญ่ทำไมยังคงความเย็นไว้ได้ ก็อยากให้ย้อนกลับไปดูที่แผนภูมิ เพราะนอกจากการมีท่อน้ำอยู่ด้านล่าง Flower Dome ยังมีการระบายความร้อนชื้นออกได้อย่างลงตัวเชื่อมไปยัง Supertree อีกด้วย

Art Science Museum

มีใครคิดเหมือนเราบ้างว่าตึกทรงนี้แตกต่างจากตึกทรงอื่นๆ อาคารแห่งนี้ออกแบบคล้ายกับปลายนิ้ว 10 นิ้วที่ผายมือต้อนรับสู่สิงคโปร์ โดยแต่ละนิ้วจะกรองแสงธรรมชาติเพื่อให้นิทรรศการอยู่ในจุดที่แสงธรรมชาติส่องถึงและสวยมาก

สถาปัตยกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ตึกที่เรียงรายใน มาริน่า เบย์ ยามค่ำคืนยังเป็นจุดที่เราอยากให้ทุกคนได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่ เพราะนอกจากความสวยงามที่รังสรรค์ด้วยสองมือของมนุษย์แล้ว ยังทำให้เห็นถึงศักยภาพของพื้นที่ที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นตึกมาริน่า เบย์ และ สะพานเฮริก 

วิธีเดินทาง

National Gallery Singapore

NATIONAL KITCHEN BY VIOLET OON ห้องอาหารสีดำที่จะพาคุณดื่มด่ำกับรสชาติอาหารพื้นเมืองเปอรานากันที่แท้จริง

สวยแทบหยุดหายใจ ใครสายอินทิเรียต้องไปสักครั้ง โคมไฟระย้าตั้งแต่ 1920 ตกแต่งด้วยไม้สีเข้ม ตัดกับ เขียว น้ำเงิน และทอง สัมผัสที่กระตุ้นความน่าสนใจของพื้นที่ที่ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็สวย พ่วงด้วยรางวัล IDCS Design Excellence Awards 2017 Honoured the Best Interior Designers of the Year ถ้าสนใจดูงานของสตูดิโอนี้ต่อ กดปุ่มด้านล่างได้เลยค่ะ อยากแนะนำจริงๆ เพราะงานเนี๊ยบสวยมากๆ 

National Gallery รีวิวแบบจัดเต็มในโพสด้านล่าง

ย่าน Civic District : CHIJMES

จากอาคารเก่าที่เคยเป็นโรงเรียน Convent of the Holy Infant Jesus Middle Education School หรือ CHIJMES (อ่านว่า “ไชมส์”) ปัจจุบันอาคารเปลี่ยนเป็นแหล่งรวมคาเฟ่ และ ร้านอาหารที่น่าสนใจไว้ภายใต้อาคารสีขาวทรงโกธิคอังกฤษ-ฝรั่งเศส โดย สถาปนิก George Coleman  

Jewel Changi Airport

Jewel Changi Airport จุดเชื่อมต่อ Terminal ที่ออกแบบโดย Moshe Safdie  เหมือนกับที่มาริน่า เบย์ เป็นผู้รังสรรค์ถามว่าฟังก์ชั่นของ Jewel จุดเด่นที่สำคัญก็คงหนีไม่พ้นน้ำตกที่สูงที่สุดสำหรับพื้นที่ปิด โดยน้ำตกในโซนดังกล่าว ยังเป็นน้ำฝนที่ผ่านกระบวนการมาแล้วให้ใสอย่างที่เห็นในพื้นที่กว่า 1.4 ล้านตารางฟุต 

สำหรับใครที่ต้องการไปเที่ยวตามแบบเรา ก็อย่าลืมโน้ตรายการไว้ เพราะบอกเลยว่าได้รูปไม่เหมือนใคร แถมยังได้ใช้เวลาในพื้นที่ที่ผ่านการออกแบบอย่างดีอีกด้วย ขอให้ทุกคนมีความสุขในการเดินทางค่ะ

Photo credit : Pawadee V.